วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชายแดนใต้ กิจกรรมรวมพลังภาคีเครือข่ายเพื่อประกาศวาระการควบคุมการใช้พืชกระท่อมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ที่ทำการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านกอแล หมู่ที่ ๑ ตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ภารกิจของรมว.ยุติธรรมเริ่มต้นด้วยการตรวจเยี่ยมการแก้ไขปัญหาพืชกระท่อม และรับฟังการบรรยายสรุป การบูรณาการร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ชุมชน ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และการใช้กฎฮูกุมปากัต หรือธรรมนูญหมู่บ้าน เพื่อการแก้ไขปัญหา โดย นายพิสิษฐ์ มีบุญ ปลัดอำเภอ ในฐานะ หัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคงอำเภอมายอ พร้อมร่วมกิจกรรมชุมชนเล่าบทเรียนการแก้ไขปัญหาพืชกระท่อมในทางที่ผิด โดยกฎฮูกุมปากัต หรือธรรมนูญหมู่บ้าน นำโดย ผู้นำศาสนา และผู้นำสตรีในพื้นที่ พร้อมประกาศอำเภอมายอเป็นอำเภอต้นแบบของการแก้ไขปัญหาตามแผนปฏิบัติการฯ และมอบอุปกรณ์กีฬาแก่แกนนำกลุ่มเยาวชน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ยาเสพติดไม่มีชีวิต เดินไม่ได้ มาได้ยังชายแดนใต้ ต้องจริงจังกับการปราบปราม ดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม ขออนุญาตใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ หากมีข้อมูลตรวจพิสูจน์จากนิติวิทย์ไล่ให้ถึงต้นตอ คนที่อยู่เบื้องหลังยาเสพติดใช้ชีวิตของคนเป็นเครื่องจักร ประชาชน เห็นชัดคือจำนวนนักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำที่เพิ่มขึ้นทุกวัน “เราเดินทางมาถึงจุดท้าทาย เพราะไทยไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อยกเลิกกัญชาและกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติดเพื่อหวังดึงนักท่องเที่ยว วันนี้นักท่องเที่ยวก็กลัวการมั่วสุม มีการบำบัดรักษาจากพืชสองตัวนี้มากขึ้น ขอใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินและกฎอัยการศึกเอาตัวคนเบื้องหลังเหล่านี้มาดำเนินคดี ยาเสพติดไม่ใช่เป็นภัยแทรกซ้อน หากเป็นภัยความมั่นคง เหมือนศาสนาเห็นคุณค่าของความดี สิ่งนี้คือฮารอม ของมึนเมา ชุมชนมีความทุกข์ เมื่อไม่มีกฏหมายโดยตรง ใช้บ้านกอแล ต.ลางา เป็นโมเดล จำนวนร้านค้าพืชใบกระท่อม ต.ลางา อ.มายอ เป็น 0” โดยไม่ใช้กฎหมายหรือการจับกุม สามารถรื้อร้านขายกระท่อมและทำให้คนขายมีความคิดที่ดี ต้องมีการควบคุมด้วยกฎหมายที่เข้มข้นในฐานะเป็นพรรคการเมือง ต้องกวาดล้างทั้งกระท่อมและกัญชาที่ทำลายเศรษฐกิจ จะปฏิบัติการวาระกระท่อม กัญชา ยาบ้า ยาเสพติด ชุมชนแห่งความสำเร็จ ยุติธรรม ไม่ให้ลูกหลานถูกทำลายด้วยยาเสพติด เป็นความรับผิดชอบที่ดีของชุมชน สิ่งที่จะชนะนักค้ายาเสพติดคือ พลังของประชาชน จิตอาสา สังคมไม่ยอมรับ บังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด ยาเสพติดคือไม่ใช่ภัยแทรกซ้อน หากเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ “วาระกระท่อมเป็นวาระของภาคใต้ มีการแพร่ระบาดของกระท่อมทุกพื้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่า ๑๐ เท่าเมื่อยกเลิกกระท่อมเป็นยาเสพติด นำไปสู่การเป็นจิตเวชมากขึ้น สร้างความเดือดร้อนในความปลอดภัยในทรัพย์สินและชีวิตแก่ประชาชน ยกเป็นวาระของกระท่อม หวังว่าใน ๓ เดือนนับจากนี้จะมีการประเมินผลให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย จะไม่มีกระท่อมขายริมถนนต่อไป