เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ที่ อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัฮดี แวดราแม รองคณบดีฝ่ายวิจัย บัณฑิตศึกษา และประกันคุณภาพ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาฮอกกี้ในร่ม เยาวชนจังหวัดชายแดนใต้ไทย-มาเลย์ ครั้งที่ ๑ YOUTH INDOOR HOCKEY BORDER PROVICE THAILAND - MALAYSIA 2024 เพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายทางการกีฬา ระหว่างประเทศไทยและมาเลย์เซีย โดยมี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางโซเฟีย มะลี ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฝ่ายมัธยม นางสาวปวริศา พรหมสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดปัตตานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นัทธี บุญจันทร์ ประธานชมรมฮอกกี้จังหวัดปัตตานี เข้าร่วม นายนิสมาน มะสีละ ประธานจัดการแข่งขันกีฬาฮอกกี้ในร่ม กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาฮอกกี้ในร่ม เยาวชนจังหวัดชายแดนใต้ไทย-มาเลย์ ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฝ่ายมัธยม คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชมรมฮอกกี้จังหวัดนราธิวาส และชมรมฮอกกี้ Kelab Black Panther จากรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ โดยมีสโมสรจากประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวน ๑๘ ทีม จาก ๙ สโมสรประกอบด้วย สโมสรฮอกกี้จังหวัดปัตตานี สโมสรฮอกกี้จังหวัดนราธิวาส สโมสรฮอกกี้โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สโมสรฮอกกี้โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง สโมสรฮอกกี้โรงเรียนชุมชนบ้านซากอ สโมสรฮอกกี้เอเจวอริเออร์ รัฐปีนัง สโมสรฮอกกี้แบล็คแพนเธอร์ รัฐปีนัง สโมสรฮอกกี้เกรซสติก รัฐเคด้า สโมสรฮอกกี้รังแมเราะ รัฐเคด้า และสโมสรฮอกกี้บาลาคูด้า รัฐเคด้า ประธานจัดการแข่งขันกีฬาฮอกกี้ในร่ม กล่าวเพิ่มอีกว่าสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายทางการกีฬา ระหว่างประเทศไทยและมาเลย์เซีย เปิดโอกาสให้กับเยาชนในประเทศไทยและประเทศมาเลย์เซียได้พัฒนาศักยภาพด้านกีฬาฮอกกี้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากการแข่งขัน สามารถใช้เป็นช่องทางสู่การพัฒนาตนเองทั้งด้านการศึกษาและการกีฬาต่อไปในอนาคต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนทั้ง ๒ ประเทศ โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จะมีโอกาสและได้มีพื้นที่แสดงความสามารถทางการกีฬา โดยใช้ศักยภาพของตนเอง